หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับ?
หนังสือเล่มนี้ เล่าเรื่องราวของผู้เขียนที่เปลี่ยนตัวเองจาก Maximalist เป็น Minimalist เดิมทีผู้เขียนเป็นนักเขียนที่ชอบสะสมและมีสิ่งของต่างๆ ในห้องไว้มากมาย จนกระทั่งวันหนึ่งผู้เขียนรู้สึกว่าสิ่งของต่างๆ ที่มีมันเยอะเกินไป จึงค่อยๆ นำออกไปทีละชิ้น ทีละชิ้น จนเหลือเฉพาะสิ่งของที่จำเป็น และเขาก็พบกับความสุขในแบบของเขา
เนื้อหาโดยสังเขป
หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาแบ่งออกเป็น 6 ส่วน
0. บทนำ
ผู้เขียนจะพาไปดูว่าบ้านของชาว Minimalist มีหน้าตาเป็นอย่างไร (รูปภาพ)
1. ทำไมต้อง Minimalism
- ผู้เขียนเล่าชีวิตแย่ๆ ของตัวเองก่อนเป็น Minimalist และชีวิตดีๆ ของตัวเองหลังเป็น Minimalist
- เล่าถึงสิ่งของที่ตัวเองทิ้ง/ขายไป เช่น กล้องถ่ายรูป หรือ กีตาร์ไฟฟ้า ที่เคยซื้อมาเพราะอยากเล่น แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้ว ขายไปน่าจะดีกว่า
- ผู้เขียนเปรียบเทียบว่ามนุษย์เราก็เหมือน hardware อายุกว่า 5,000 ปี ไม่สามารถอัพเกรดได้ทันทีเหมือน iPhone แต่โลกทุกวันนี้มีข้อมูลข่าวสารมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่มีทางรับรู้ได้ทั้งหมด ดังนั้นเราควรเลือกรับเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจะดีทีสุด
2. ทำไมเราถึงชอบสะสมสิ่งของต่างๆ
ผู้เขียนเล่าว่ามนุษย์เรามักจะเบื่อง่าย เมื่อเราซื้อของชิ้นใหม่มาได้ 2-3 วัน เราก็จะคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านั้น และออกแสวงหาสิ่งใหม่ไปเรื่อยๆ ถ้าเราฝึกฝนตนเองให้พอใจกับสิ่งที่มี และเลือกซื้อเฉพาะของที่จำเป็นกับชีวิต เราก็จะมีความสุขมากขึ้น
3. 55 เคล็ดลับที่จะช่วยคุณบอกลาสิ่งของต่างๆ
(จะเล่าเฉพาะเคล็ดลับที่น่าสนใจนะครับ)
- เริ่มจากกำจัดสิ่งของที่เป็นขยะแน่ๆ เช่น หนังสือพิมพ์เก่า, ขวดพลาสติก เป็นต้น
- อะไรก็ตามที่เราไม่ได้ใช้งานเกิน 1 ปี นั่นแปลว่าเราอาจจะไม่ต้องการมันแล้ว (เอาไปทิ้งได้)
- ถ้าคิดจะทำอะไรแล้ว ทำเลย! อย่ารอ “วันหลัง”
- ลองคิดว่าถ้าเราเสียสิ่งนี้ไป เราจะซื้อมาใหม่หรือเปล่า? (ถ้าคิดว่าต้องซื้อมาใหม่แน่ๆ แสดงว่าสิ่งนั้นยังจำเป็นสำหรับเราอยู่)
- อย่าซื้อของเพราะถูกหรือฟรี กับสิ่งที่เราไม่ได้ใช้อยู่แล้ว (เอามาก็ไม่ได้ใช้อยู่ดี)
4. 12 สิ่งที่เปลี่ยนไปตั้งแต่ผมบอกลาสิ่งของต่างๆ
- มีเวลามากขึ้น
- มีความสุขมากขึ้น
- มีอิสระมากขึ้น
- ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
- ไม่กังวลว่าคนอื่นจะมองเราอย่างไร
- สนใจโลกรอบตัวมากขึ้น
- มีสมาธิมากขึ้น จดจ่อกับตัวเองมากขึ้น
- ประหยัดเงิน
- มีสุขภาพดีขึ้น
- มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนรอบข้าง
- อยู่กับปัจจุบัน
- รู้สึกขอบคุณสิ่งต่างๆ
5. “รู้สึกถึง” ความสุข แทนที่ “ต้องมี” ความสุข
เมื่อเรามีสิ่งของน้อยลง จนเหลือเฉพาะสิ่งที่จำเป็น เราจะสนใจตัวเองและผู้คนรอบข้าง แล้วเราก็จะพบกับความสุขในที่สุด
ความประทับใจ
เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบ ทำให้ผมอยากจัดการกับข้าวของต่างๆ ภายในบ้าน และโยนทิ้งของเก่าๆ ที่ไม่จำเป็นในบ้านออกไปบ้าง ก็เหมือนกับแก้วน้ำ ถ้าเราปล่อยให้มันเต็มโดยไม่เททิ้งเสียบ้าง เราก็จะไม่มีทางรับอะไรใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตได้เลย
เริ่มต้นง่ายๆ จากการเคลียร์หน้า Desktop ในคอมพิวเตอร์ดูสิครับ ผมเชื่อว่าหลายคนต้องมีไฟล์รกๆ อยู่แน่ๆ ผมลองจัดการหน้า Desktop ในคอมพิวเตอร์ของผมเองแล้ว รู้สึกสะอาดตาเวลาเปิดคอมฯ ขึ้นเยอะเลยครับ
หนังสือเล่มนี้ครึ่งเล่มแรกอาจจะน่าเบื่อสักหน่อย แแต่ 2 บทสุดท้าย อ่านสนุกพอควรครับ
คะแนน 3 / 5 ดาว (ถ้ามีเวลาว่างค่อยหามาอ่านนะครับ)